วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ฝนรั่วรดที่เทียบด้วยราคะ (ความติดข้อง)





เรือนที่มุงไม่ดี   ฝนย่อมรั่วรดได้ฉันใด
จิตที่อบรมไม่ดี  ราคะ (ความติดข้อง)  ก็รั่วรดได้ฉันนั้น
เรือนที่มุงดีแล้ว  ฝนย่อมรั่วรดไม่ได้ฉันใด
จิตอบรมดีแล้ว  ราคะ (ความติดข้อง)  ก็รั่วรดไม่ได้ฉันนั้น


.........................





ผู้เศร้าโศกกับผู้บันเทิงในปัจจุบันและอนาคต

คนทำความชั่ว  ย่อมเศร้าโศกในโลกทั้งสอง
คือเศร้าโศกในโลกนี้  ละไปแล้วก็เศร้าโศก
เขาย่อมเศร้าโศกเดือดร้อน  
เพราะการกระทำอันเศร้าหมองของตน

...........................






















วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สิ้นหลงย่อมไม่หวั่นไหว





ภูเขาศิลา  ไม่หวั่นไหว  ตั้งอยู่ด้วยดีฉันใด 
เพราะสิ้นความหลง
ภิกษุย่อมไม่หวั่นไหว  ดุจภูเขา ฉะนั้น

    อุทาน ๒๕/๑๑๒






อยู่ในอำนาจของคนอื่นเป็นทุกข์



การอยู่ในอำนาจของคนอื่น  ทุกอย่าง  เป็นทุกข์
การเป็นอิสระ  ทุกอย่าง  เป็นสุข
คนทั้งหลาย  ย่อมเดือดร้อนในเรื่องทุกข์สุขทั่วไป  
เพราะว่ากิเลสเครื่องมัดสัตว์  เป็นของก้าวล่วงได้ยาก

อุทาน  ๒๕/๙๘










วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

พาลและบัณฑิตรู้จักตนเอง






คนพาลรูัจักความเป็นพาลของตน  
ก็เป็นบัณฑิตได้บ้าง
เพราะเหตุนั้น,
แต่คนพาลที่สำคัญตนว่าเป็นบัณฑิต
เรากล่าวว่าเป็นพาลแท้

................




ความเป็นสหายในคนพาลไม่มี




ถ้าเที่ยวไปไม่พบคนที่ดีกว่าตน  หรือเสมอตน
ก็ควรบำเพ็ญความเป็นผู้เที่ยวไปคนเดียวให้มั่น
เพราะความเป็นสหายในคนพาลไม่มี


..............

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

อยู่ในอำนาจของคนอื่นเป็นทุกข์






การอยู่ในอำนาจของคนอื่นเป็นทุกข์ 
ทุกอย่าง  เป็นทุกข์
การเป็นอิสระ  ทุกอย่าง  เป็นสุข,
คนทั้งหลายย่อมเดือดร้อนในเรื่องทุกข์สุขทั่วไป
เพราะว่ากิเลสเครื่องมัดสัตว์
เป็นของก้าวล่วงได้ยาก

......................





สิ้นหลงย่อมไม่หวั่นไหว



ภูเขาศิลา  ไม่หวั่นไหว  
ตั้งอยู่ด้วยดีฉันใด
เพราะสิ้นความหลง  
ภิกษุย่อมไม่หวั่นไหว  ดุจภูเขา  ฉะนั้น

..................






วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การให้ธรรมเป็นทาน







การให้ธรรมเป็นทาน      ชนะการให้ทั้งปวง
ความยินดีในธรรม       ชนะความยินดีทั้งปวง
รสแห่งธรรม       ชนะรสทั้งปวง
ความสิ้นไปตัณหา      ชนะทุกข์ทั้งปวง

................





ย่อมคืนดีกัน



ผู้ใดรู้โทษที่ตนล่วงเกินแล้ว ๑
ผู้ใดรู้การแสดงโทษคืน ๑
คนทั้งสองนั้นย่อมพร้อมเพรียงกันยิ่งขึ้น
ความสนิทสนมของเขาย่อมไม่เสื่อมคลาย
ผู้ใด  เมื่อคนเหล่าอื่นล่วงเกินกัน
ตนเองสามารถจะเชื่อมให้สนิทสนมได้
ผู้นั้นแลชื่อว่าเป็นผู้ประเสริฐ  ผู้นำภาระไป  ผู้ทรงธุระไว้

..................

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สะสมโทษด้วยปาก




รูปภาพ



ชนพาลเมื่อกล่าวคำทุพภาษิต

ชื่อว่าดัดตนด้วยศัสตราใด ก็ศสัตรานั้น

ย่อมเกิดในปากของบุรุษผู้เกิดแล้ว

ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรถูกติ  หรือติผู้ที่ควรได้รับการสรรเสริญ

ผู้นั้นชื่อว่า  "สั่งสมโทษด้วยปาก"

เพราะโทษนั้น  เขาย่อมไม่ประสบความสุข.




.........................







ควรเศร้าโศกถึงตน



รูปภาพ




ถ้าบุคคลจะพึงเศร้าโศกถึงความตาย

อันจะไม่เกิดมีแก่สัตว์ผู้เศร้าโศกนั้น

ก็ควรจะเศร้าโศกถึงตน

ซึ่งจะต้องตกไปสู่อำนาจของมัจจุราชทุกเมื่อ.




........................




วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

งานที่ควรทำก่อน






รูปภาพ


ผู้ใดมุ่งจะทำงานที่ควรทำก่อน  ไพล่ไปทำทีหลัง

ผู้นั้นย่อมพลาดจากฐานะ  อันนำมาซึ่งความสุข

และย่อมเดือดร้อนในภายหลัง

งานใดควรทำ  ก็พึงพูดถึงแต่งานนั้นเถิด

งานใดไม่ควรทำ  ก็ไม่ควรพูดถึงงานนั้น

คนไม่ทำมีแต่พูด  บัณฑิตทั้งหลายก็รู้ทัน.




...................







สัตว์ทั้งหลายคบกันโดยธาตุ


รูปภาพ



แม้ในปัจจุบันกาล

สัตว์ทังหลายก็ย่อมคบค้ากัน

ย่อมสมาคมกันโดยธาตุเทียว

คือ  สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว  ย่อมคบค้ากัน

ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกมีอัธยาศัยเลว

สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี  ย่อมคบค้ากัน

ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี.



...................



ละอกุศล ทำกุศล








บุคคลผู้มีปัญญา

ละกายทุจริต  วจีทุจริต  มโนทุจริต

และไม่กระทำอกุศลกรรมอย่างอื่นใดอันประกอบด้วยโทษ

กระทำแต่กุศลกรรมเป็นอันมาก

เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติ



...........................






ไม่ควรทำความโกรธให้ผู้มีคุณ





เราไม่ควรทำความโกรธให้ผู้มีคุณ

เมื่อผู้ทำความผิดมีคุณ

เราไม่ควรทำความโกรธให้ผู้มีคุณ

เมื่อไม่มีคุณควรแสดงความสงสารเป็นพิเศษ.



...............................













วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทุคติมีอวิชชาเป็นเหตุ






ทุคติอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้และในโลกหน้า

ทั้งหมดมีอวิชชาเป็นมูลอันปรารถนาและความโลภก่อขึ้น

ก็เพราะเหตุที่บุคคลเป็นผู้มีความปรารถนาลามก

ไม่มีหิริ  ไม่มีเอื้อเฟื้อ

ฉะนั้น จึงย่อมประสบบาป  ต้องไปสู่อบายเพราะบาปนั้น

เพราะเหตุนั้น  ภิกษุสำรอกฉันทะ  โลภะและอวิชชาได้

ให้วิชชาบังเกิดขึ้นอยู่  พึงละทุคติทั้งปวงเสียได้



...................





จิตขุ่นพาไปสู่ทุคติ






พระพุทธเจ้าทรงทราบบุคคลบางคน

ในโลกนี้  ผู้มีจิตขุ่นมัว  ได้ทรงพยากรณ์

เนื้อความนี้แก่ภิกษุทั้งหลาย  ในสำนักของพระองค์ว่า

ถ้าในสมัยนี้  บุคคลนี้พึงทำกาละไซร้  เขาพึงเข้าถึงนรก

 เพราะจิตของเขาขุ่นมัว  เขาเป็นอย่างนั้น

เหมือนถูกนำมาทอดทิ้งไว้ฉะนั้น  สัตว์ทั้งหลายย่อมไปสู่ทุคติ

เพราะเหตุแห่งจิตขุ่นมัว



.................

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ที่พึ่งอันสูงสุด





ผู้ใดถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เป็นสรณะ

ผู้นั้นย่อมเห็นอริยสัจ ๔  ด้วยปัญญาอันชอบ  คือ  เห็นทุกข์ 

ทุกขสมุทัย  ทุกขนิโรธและอริยมรรค ๘  ซึ่งให้ถึงซึ่งความสงบทุกข์

นั่นแหละเป็นสรณะอันเกษม  เป็นสรณะสูงสุด

ผู้อาศัยสรณะนี้  ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง  ดังนี้.



................






ละอกุศล  ทำกุศล





บุคคลผู้มีปัญญา

ละกายทุจริต  วจีทุจริต  มโนทุจริต

และไม่กระทำอกุศลกรรมอย่างอื่นใดอันประกอบด้วยโทษ

กระทำแต่กุศลกรรมเป็นอันมาก

เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติ


...............




บุคคลผู้สงบ





บุคคลผู้สงบ  เว้นจากการทำความชั่ว
พูดด้วยปัญญา  ไม่ฟุ้งซ่าน  ย่อมกำจัดบาปกรรมทั้งหลาย
เหมือนลมพัดใบไม้ให้ร่วงหล่นไปฉะนั้น


..................




รัตนประเสริฐสูงสุด





ทรัพย์คือเครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่ง

ในโลกนี้หรือในโลกอื่น

หรือรัตนใดอันประณีตในสวรรค์

ทรัพย์และรัตนนั้น  เสมอด้วยพระตถาคตไม่มีเลย

พุทธรัตนแม้นี้  เป็นรัตนอันประณีต

ด้วยสัจวาจานี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้.




.................

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จิตขุ่นพาไปทุคติ





พระพุทธเจ้าทรงทราบบุคคลบางคน

ในโลกนี้  ผู้มีจิตขุ่นมัว  ได้ทรงพยากรณ์

เนื้อความนี้แก่ภิกษุทั้งหลาย  ในสำนักของพระองค์ว่า

ถ้าในสมัยนี้  บุคคลนี้พึงทำกาละไซร้  เขาพึงเข้าถึงนรก

 เพราะจิตของเขาขุ่นมัว  เขาเป็นอย่างนั้น

เหมือนถูกนำมาทอดทิ้งไว้ฉะนั้น  สัตว์ทั้งหลายย่อมไปสู่ทุคติ

เพราะเหตุแห่งจิตขุ่นมัว

 

 .....................................................






การบูชาอันเลิศ



ดูก่อนภิกษุทั้้งหลาย  การบูชา ๒ อย่างนี้ เป็นไฉน

คือ  การบูชาด้วยอามิส๑   การบูชาด้วยธรรม๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  การบูชา ๒ อย่างนี้แล

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  บรรดาการบูชา ๒ อย่างนี้

การบูชาด้วยธรรมเป็นเลิศ


.................................






วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ผู้สันโดดไม่เศร้าโศก



ผู้ไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่เป็นอดีต

ไม่บ่นถึงสิ่งที่เป็นอนาคต

ยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยสิ่งเป็นปัจจุบัน

ท่านเรียกว่า  "ผู้สันโดด"



.........................................................
                                                         




ทุคติมีอวิชชาเป็นเหตุ






ทุคติอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้และในโลกหน้า

ทั้งหมดมีอวิชชาเป็นมูลอันปรารถนาและความโลภก่อขึ้น

ก็เพราะเหตุที่บุคคลเป็นผู้มีความปรารถนาลามก

ไม่มีหิริ  ไม่มีเอื้อเฟื้อ

ฉะนั้น จึงย่อมประสบบาป  ต้องไปสู่อบายเพราะบาปนั้น

เพราะเหตุนั้น  ภิกษุสำรอกฉันทะ  โลภะและอวิชชาได้

ให้วิชชาบังเกิดขึ้นอยู่  พึงละทุคติทั้งปวงเสียได้



...........................................................

                                                 







วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปัญญาเป็นแสงสว่างอันประเสริฐ





พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ความรักเสมอด้วยตนไม่มี

ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกย่อมไม่มี

แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาย่อมไม่มี

ฝนต่างหากเป็นสระยอดเยี่ยม



                         ..............................................





สะสมโทษด้วยปาก





ชนพาลเมื่อกล่าวคำทุพภาษิต

ชื่อว่าดัดตนด้วยศัสตราใด ก็ศสัตรานั้น
ย่อมเกิดในปากของบุรุษผู้เกิดแล้ว
ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรถูกติ  หรือติผู้ที่ควรได้รับการสรรเสริญ
ผู้นั้นชื่อว่า  "สั่งสมโทษด้วยปาก"
เพราะโทษนั้น  เขาย่อมไม่ประสบความสุข.


                         ............................................